วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: ยอห์น 11:32-44 พระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพระองค์“ – ยอห์น11:41 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 15-16, มาระโก 6:1-29 โศกนาฏกรรมก่อให้เกิดช่องว่างที่ไม่อาจเติมเต็มในครอบครัวหนึ่ง เมื่อรถบรรทุกพุ่งชนเด็กน้อยวัยเตาะแตะที่ไล่ตามแมวไปบนถนนเด็กวัยสี่ขวบนิ่งงัน มองดูอย่างเสียขวัญ ขณะที่พ่อแม่ของเธอไกวเปลที่มีร่างไร้วิญญาณของน้องสาวนอนอยู่ นานหลายปีที่ความว่างเปล่าอันเยือกเย็นของช่วงเวลานั้นครอบงำครอบครัวนี้ไว้ในความโศกเศร้า ความรู้สึกเดียวที่ช่วยบรรเทาได้คือความด้านชา และยากที่จะคิดได้ว่าจะพ้นจากสภาพนี้ได้อย่างไร แอน วอสแคมป์ ซึ่งเป็นนักเขียน คือเด็กสี่ขวบคนนั้น ความโศกเศร้าเพราะการเสียชีวิตของน้องสาวได้หล่อหลอมมุมมองที่เธอมีต่อชีวิตและพระเจ้าในโลกที่เธอเติบโตมา ซึ่งไม่ค่อยมีเรื่องของพระคุณ ความชื่นชมยินดีเป็นเพียงความคิดที่ไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง สมัยที่วอสแคมป์เพิ่งมีลูก เธอเริ่มค้นพบสิ่งที่ยากจะอธิบายซึ่งพระคัมภีร์เรียกว่า ความชื่นชมยินดี คำว่า ชื่นชมยินดีและพระคุณ มาจากคำกรีกว่า ไคโร (chairo) ซึ่งคำนี้ซ่อนอยู่ตรงกลางของคำว่าขอบพระคุณ ในภาษากรีก เธอสงสัยว่า ง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ เธออยากรู้ว่าจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจขอบพระคุณสำหรับของขวัญ 1,000 อย่างที่เธอมีอยู่เธอค่อยๆเริ่ม และไม่นานความชื่นชมยินดีก็หลั่งไหลออกมาอย่างเสรี พระเยซูก็ทรงขอบพระคุณก่อน ไม่ใช่หลังจากที่ทรงชุบลาซารัสให้เป็นขึ้นจากความตาย (ยอห์น 11:41) วอสแคมป์พบว่า [...]
↧